มัสยิดสุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดิน อยู่ใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงแห่งบรูไน ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบรูไน ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดในเอเชียแปซิฟิก เป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบรูไนทั้งประเทศ และยังเป็นศูนย์รวมจิตใจสำหรับชาวมุสลิมในบรูไน ความงดงามของมัสยิดสุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดินยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “มินิทัชมาฮาล” และเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของบรูไนในปัจจุบัน
ชื่อของมัสยิดสุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดิน มาจากพระนามของ “สุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดินที่ 3 (Omar Ali Saifuddien III )” สุลต่านบรูไนองค์ที่ 28 ซึ่งเป็นผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้ สร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1958 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน คาวาลิแอร์ รูดอล์ฟโฟ โนลลี (Cavaliere Rudolfo Nolli )
ลักษณะทางสถาปัตยกรรรมของมัสยิดสุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดิน มีเอกลักษณ์ของความเป็นสถาปัตยกรรมอิสลามสมัยใหม่ เป็นแบบผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก คือ แบบอิสลามและอิตาเลียน (Islamic and Italian styles) โดยมีพื้นฐานมาจากสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์โมกุลของอินเดีย รวมเข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบอิตาลี โครงสร้างทั้งหมดของมัสยิด สร้างขึ้นจากหินอ่อนและหินแกรนิต ทำให้มีความมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งมีความสวยงามด้วยสีขาวบริสุทธิ์จากหินอ่อน ฐานยกพื้นสูง บริเวณทั้งสี่ด้านประดับด้วยเสาเกลียวรายล้อม นอกจากนี้ ลักษณะของมัสยิดสุลต่าน โอมาร์ ไซฟุดดิน ยังได้รับอิทธิพลจากต้นแบบคือ “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นแบบอย่างที่สวยที่สุดของสถาปัตยกรรมโมกุลในอินเดีย อาคารมัสยิดมีความสูง 52 เมตร ยอดกึ่งกลางคือส่วนโดมรูปหัวหอมตามแบบอย่างสถาปัตยกรรมอิสลาม ที่สำคัญนั้นคือโดมดังกล่าวเป็น “โดมทองคำ”สร้างขึ้นจากทองคำแท้ทั้งหมด ใช้แผ่นทองคำจำนวน 3.3 ล้านแผ่นในการสร้าง
บริเวณทิศทั้งสี่ที่รายล้อมรอบมัสยิดสร้างด้วยเสาสูงแบบอาหรับ ยอดโดมขนาดเล็กทั้งหมดหล่อสร้างขึ้นจากทองคำแท้ ส่วนด้านนอกเป็น “หออะซาน” ซึ่งเป็นหอสำหรับการเรียกชาวมุสลิมให้มารวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีละหมาดนั้น สร้างขึ้นจากหินอ่อนทั้งหลัง ออกแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบเรอนาซองส์และอิตาเลียน(Renaissance and Italian architectural style) มีการติดตั้งลิฟท์ภายในหออะซาน และจากจุดนี้ในชั้นบนสุด จะสามารถชมทิวทัศน์โดยรอบของกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงแห่งบรูไนได้ทั้งหมด
การออกแบบตกแต่งภายในมัสยิดซึ่งเป็นโถงกว้างสำหรับประกอบพิธีทางศาสนา หลังคาโค้งด้านในประดับโคมระย้าอย่างงดงาม ผนังต่างๆใช้สีเขียวขอบลวดลายสีเหลือง ด้านในมัสยิดทั้งหมดได้รับการออกแบบแบบประยุกต์ด้วยศิลปะอาหรับกับศิลปะตะวันตก อาทิ การใช้กระจกสีเตนกลาสประดับหน้าต่าง หลังคาโค้งและ เสาหินอ่อนแบบกรีก รวมทั้งวัสดุต่างๆที่ใช้ในการก่อสร้าง นำมาจากสถานที่ผลิตใจแหล่งต่างๆ ได้แก่ หินอ่อนจากอิตาลี หินแกรนิตจากเซี่ยงไฮ้ คริสตัลจากอังกฤษ และพรมจากซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้ายังมีการสร้างทะเลสาบจำลองขนาดใหญ่ และบนกลางสระนั้นมีการจำลองเรือพระราชพิธี(Royal barge)มาประดับไว้ นับเป็นจุดเด่นอีกประการหนึ่งที่ช่วยเสริมความงามให้กับทัศนียภาพของมัสยิดแห่งนี้ บริเวณโดยรอบยังแวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ มีสะพานที่มีราวสีเขียวข้ามแม่น้ำจากมัสยิดเชื่อมไปถึงหมู่บ้านดั้งเดิมของบรูไน เรียกว่า “กัมปง อะเยอร์(Kampong Ayer)” หรือ หมู่บ้านกลางน้ำ(village in the water) อันเป็นความหมายถึงความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนและมัสยิด