โบสถ์กียาโป หรือ โบสถ์เกียโป ตั้งอยู่ที่เขตกียาโป กรุงมะนิลา ได้รับการกล่าวขานกันว่า ณ สถานที่นี้เป็นหัวใจของมะนิลา สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1586 ปัจจุบันได้รับการยกสถานะขึ้นเป็น “มหาวิหารรองแห่งพระเยซูดำ” หรือ บาซิลิกาแห่งแบล็คนาซาเรเน (Basilica of the Black Nazarene) เมื่อ ค.ศ.1988 เป็นโบสถ์ในนิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงไปทั่วฟิลิปปินส์ เนื่องด้วย ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระเยซูดำ (Black Nazarene)
ประวัติความเป็นมาของโบสถ์กียาโป มีบันทึกไว้ว่า เมื่อปี ค.ศ.1586 นายพลซานดิเอโก เดอ เวรา(Santiago de Vera) ได้วางแผนที่จะสร้างโบสถ์คริสต์ในย่านกียาโป ซึ่งอยู่ชานเมืองมะนิลา ต่อมา คณะมิชชันนารีฟรังซิสกัน (Franciscan Missionaries) ได้เริ่มสร้างโบสถ์กียาโปแบบง่าย ๆ โดยผสมผสานวัสดุท้องถิ่นมาสร้างสถาปัตยกรรมด้วยไม้ไผ่และใบปาล์ม แต่โบสถ์หลังแรกได้ถูกไฟไหม้ทำลายลงในปี ค.ศ.1639 ต่อมา จึงได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งบนตำแหน่งที่ตั้งเดิม โดยปรับมาใช้วัสดุหลักเป็นหินที่แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องพังทลายลงอันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1863 โบสถ์กียาโปได้รับการสร้างขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 3 เมื่อ ค.ศ.1899 แต่ก็ประสบกับอัคคีภัยเผาผลาญจนพังทลายลงในปี ค.ศ.1928
การบูรณะโบสถ์กียาโปครั้งล่าสุดสร้างขึ้นอีกครั้งโดยกองทุนคณะคริสต์จักรและเงินบริจาคจากประชาชน โดยมอบหมายให้สถาปนิกคือ “ฮวน นักปิล (Juan Nakpil)” ดำเนินการออกแบบและวางแผนการสร้างด้วยแบบสถาปัตยกรรมผสมคือ “สถาปัตยกรรมแบบเม็กซิกัน-บาโรก (Mexican Baroque)”
แผนผังของโบสถ์เป็นแบบละตินครอส หรือ กางเขนละติน หลังคาจั่วสามเหลี่ยมแบบมหาวิหาร ลาดเอียงออกสองด้านอย่างสมมาตร ผนังด้านหน้าโบสถ์ได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงาม มีการใช้ลวดลายประดับตามแบบนิยมอันหรูหราของบาโรก หัวเสาไอโอนิกติดผนัง ฐานเสาเกลียว ต่อมา มีการเจาะผนังด้านหน้าทางซ้ายและขวาเพื่อประดิษฐานประติมากรรมนักบุญ หอระฆังทรงแปดเหลี่ยม สูง 4 ชั้น หลังคาโดมของหอระฆังปลายยอดกางเขน
ความสำคัญยิ่งของโบสถ์กียาโป ซึ่งเปรียบเสมือนจุดศูนย์รวมจิตใจของคริสต์ศาสนิกชนฟิลิปปินส์คือ “ประติมากรรมพระเยซูดำ” ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านในบนพระแท่นหินอ่อน บริเวณใจกลางของโบสถ์ ทำให้ในทุก ๆ วัน มีผู้ศรัทธามาสักการะบูชาและประกอบพิธีเป็นจำนวนมาก